เรือศักดิ์สิทธิ์




เรือ ใช่ว่าจะเป็นพาหนะของ “คนเป็น” เท่านั้น หากแต่ “คนตาย” ยังใช้เรือในการเดินไปกลับไปสู่โลกเก่า 

ในเอกสารชาวยุโรปของเฟอร์ดินันด์ เมนเดซ ปินโต ได้พรรณนาถึงงานถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระไชยราชาธิราช ยุคต้นอยุธยา (พ.ศ. 2077-2089) เมื่อเผาพระศพแล้วเชิญพระอัฐิไปทางน้ำ ดังนี้

“บรรดาพิธีซึ่งต้องทำในการนั้น อันเป็นขนบธรรมเนียมของประเทศนี้คือตั้งฟืนกองใหญ่อันมีไม้จันทน์ ไม้กฤษณา ไม้กระลำพัก และกำยาน แล้วนำพระศพของพระเจ้าแผ่นดินองค์ซึ่งสวรรคตนั้นขึ้นวางเหนือกองฟืนดังกล่าว จุดไฟเผาด้วยวิธีการอันแปลกประหลาด

แต่ในที่สุดพระศพก็กลายเป็นเถ้าถ่าน พวกเขาเก็บไว้ในพระโกศเงิน ซึ่งพวกเขาได้จัดลงเรือซึ่งตกแต่งสวยงามมาก ติดตามไปด้วยเรือ 40 ลำ มีพระสงฆ์นั่งเต็ม ซึ่งเป็นพระมีสมณศักดิ์สูงที่สุด

ต่อจากนั้นก็เป็นขบวนเรือเล็กๆ 100 ลำ บรรทุกรูปปั้นสัตว์ต่างๆ

ในขบวนนี้ เรือเหล่านี้ทุกๆ ลำไปขึ้นบกที่วัด ชื่อวัด… พระอัฐิและพระอังคารของพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งบรรจุอยู่ในโกศเงิน ได้ถูกประดิษฐานไว้ที่นั่น แล้วจุดไฟเผาบรรดารูปสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วน ทั้งอยู่ในลักษณะยืนในเรือ

และพร้อมกันนั้นก็มีเสียงน่ากลัวไม่หยุดหย่อน มีเสียงปืนใหญ่ ปืนครก กลอง ระฆัง แตร และเสียงหนวกหูประเภทอื่นๆ อีก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่ได้ยินแล้วจะไม่สั่น

พิธีนี้สิ้นสุดลงในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เพราะว่าพวกรูปเหล่านี้ทำด้วยวัตถุที่ไหม้ไฟได้ และเรือก็เต็มไปด้วยน้ำมันดินและยางสนหรือชัน น่ากลัวมาก 
ดังนั้น ในชั่วครู่นั้น บรรดาเรือนั้นๆ และสิ่งทั้งหมดซึ่งอยู่ในเรือเหล่านั้นก็ค่อยๆ หมดไป”

แต่ในที่สุดพระศพก็กลายเป็นเถ้าถ่าน พวกเขาเก็บไว้ในพระโกศเงิน ซึ่งพวกเขาได้จัดลงเรือซึ่งตกแต่งสวยงามมาก ติดตามไปด้วยเรือ 40 ลำ มีพระสงฆ์นั่งเต็ม ซึ่งเป็นพระมีสมณศักดิ์สูงที่สุด

ต่อจากนั้นก็เป็นขบวนเรือเล็กๆ 100 ลำ บรรทุกรูปปั้นสัตว์ต่างๆ
ในขบวนนี้ เรือเหล่านี้ทุกๆ ลำไปขึ้นบกที่วัด ชื่อวัด…พระอัฐิและพระอังคารของพระเจ้าแผ่นดิน ซึ่งบรรจุอยู่ในโกศเงิน ได้ถูกประดิษฐานไว้ที่นั่น  แล้วจุดไฟเผาบรรดารูปสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วน ทั้งอยู่ในลักษณะยืนในเรือ

และพร้อมกันนั้นก็มีเสียงน่ากลัวไม่หยุดหย่อน มีเสียงปืนใหญ่ ปืนครก กลอง ระฆัง แตร และเสียงหนวกหูประเภทอื่นๆ อีก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปไม่ได้ที่ได้ยินแล้วจะไม่สั่น 

พิธีนี้สิ้นสุดลงในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เพราะว่าพวกรูปเหล่านี้ทำด้วยวัตถุที่ไหม้ไฟได้ และเรือก็เต็มไปด้วยน้ำมันดินและยางสนหรือชัน น่ากลัวมาก

"การใช้เรือในการพิธีกรรมที่เกี่ยวกับคนตายนี้ มีต้นเค้าเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งบรรพกาล ราว 2,500 ปีมาแล้ว"

รูปเรือที่เกี่ยวกับพิธีศพและคนพบทั้งบนลายเส้นบนกลองมโหระทึก หรือไหที่ใช่กระดูกคนตาย รวมไปถึงโลงไม้ขุดแต่งคล้ายเรือ เป็นพาหนะศักดิ์สิทธิ์บรรจุกระดูก ที่ถูกนำไปไว้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น ถ้ำ หรือเพิงผา สิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งที่ใช้ในพิธีศพทั้งสิ้น 

เรือศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งวัฒนธรรมร่วม ซึ่งแน่นอนยังมีสิ่งร่วมๆ กันแบบนี้อีกมาก ในหนังสือวัฒนธรรมร่วมอุษาคเนย์ในอาเซียน ของ สุจิตต์ วงษ์เทศ 




ราคา 208 บาท

สนใจสั่งซื้อหนังสือ 
Inbox : Bookbooksiam
Line ID : rattatom

Tel : 089 484 6655 / 095 713 9977


ขอบคุณ ข้อมูลดีๆ จากลิงค์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น